NSL Soft Power to Thai Taste Horizon

หลักการและเหตุผล

ประเทศไทยมีจุดแข็งด้าน “อาหารไทย” ซึ่งเป็นหนึ่งใน 11 มิติของยุทธศาสตร์ Soft Power ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันวัฒนธรรมไทยสู่ระดับโลก เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศ

บริษัท NSL Foods เป็นหนึ่งในผู้พัฒนาด้านนวัตกรรมอาหารที่สามารถนำอาหารไทยไปสู่ผู้บริโภคในรูปแบบใหม่ เช่น ข้าวเหนียวมะม่วงแช่แข็ง ข้าวกะเพราแช่แข็ง หรือขนมไทยแปรรูป พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานสากล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการปส่งเสริม Soft Power ด้านอาหารไทย ผ่าน Innovation x Tradition” จึงมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ “อาหารไทยยุคใหม่” ที่ทั้ง อร่อย ปลอดภัย และสะดวก ด้วยแนวคิด NSL Soft Power to Thai Taste Horizon” โดยใช้นวัตกรรมจาก NSL เป็นกลไกสำคัญในการสร้างความภาคภูมิใจ และขยายอาหารไทยสู่ระดับโลกอย่างยั่งยืน

รับชมข้อมูลสินค้า ส่งเสริม Thailand Soft Power NSL INTERTRADE COMPANY LIMITED – NSL

โอกาสธุรกิจขนมไทยสู่ตลาดโลก

มูลค่าตลาดขนมทั่วโลกในปี 2023: ประมาณ 692.52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ระหว่างปี2024-2030: 4.2%

ในปี 2024 การส่งออกของไทยมีมูลค่ารวมประมาณ 300,529.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.4% จากปี 2023 ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการสินค้าจากไทยในตลาดโลก

วัตถุประสงค์

เสริมสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของอาหารไทยในฐานะอาหารนวัตกรรมที่มีคุณภาพระดับโลก พร้อมส่งเสริมการใช้ Soft Power ด้านอาหารเพื่อสร้างรายได้และโอกาสให้ประเทศไทย ผลักดันผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารของ NSL ให้เป็นตัวแทนอาหารไทยในระดับนานาชาติ โดยเชื่อมโยง “วัฒนธรรมอาหารไทย” กับ “เทคโนโลยีการแปรรูป” เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่

กลุ่มเป้าหมาย

  • ผู้บริโภคชาวไทยรุ่นใหม่ที่สนใจอาหารสะดวกและใส่ใจสุขภาพ
  • ผู้บริโภคต่างประเทศที่ชื่นชอบรสชาติอาหารไทยแต่ต้องการความสะดวก
  • ภาคธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม และธุรกิจบริการอาหารที่ต้องการเมนูไทยแบบสำเร็จรูปคุณภาพสูง
  • นักลงทุนและพันธมิตรทางธุรกิจที่สนใจนำเข้า/จัดจำหน่ายอาหารไทยนวัตกรรม

กิจกรรมหลักของโครงการ

  1. Thai Taste Innovation Showcase
    • จัดแสดงนวัตกรรมอาหารไทยของ NSL ในงานแสดงสินค้า (เช่น Thaifex, Anuga, หรือจัด Roadshow ไปยังประเทศเป้าหมาย)
    • สาธิตการใช้ผลิตภัณฑ์ NSL ในเมนูอาหารไทยแบบร่วมสมัย
  2. การสื่อสารวัฒนธรรมอาหารไทยผ่านสื่อดิจิทัล
    • ผลิตวิดีโอแนะนำเมนูอาหารไทยแบบนวัตกรรม พร้อมบอกเล่าประวัติความเป็นมาของเมนู
    • ส่งเสริมผ่านช่องทาง YouTube, TikTok, Instagram และแพลตฟอร์มของ NSL
  3. Thailand Ready-to-Eat Lab
    • จัด workshop หรือ collaboration กับเชฟชื่อดัง นักวิจัยอาหาร และเชฟต่างชาติ ในการพัฒนาเมนูใหม่ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ NSL
    • เปิดโอกาสให้เยาวชนหรือนักเรียนอาชีวะด้านอาหารทดลองสร้างเมนูใหม่จากสินค้าของ NSL

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

  • อาหารไทยได้รับการยอมรับในรูปแบบ “สะดวก นวัตกรรม และยังคงรสชาติแบบดั้งเดิม”
  • ภาพลักษณ์ประเทศไทยด้าน Soft Power เข้มแข็งขึ้น โดยเฉพาะด้าน Food Culture
  • เพิ่มโอกาสส่งออกสินค้าอาหารไทยนวัตกรรมของไทย
  • เยาวชนไทยมีแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์และพัฒนาวัฒนธรรมอาหารไทยต่อไป

ข้าวแท่ง Rice Bar by NSL

บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จํากัด (มหาชน)

เป็นอาหารพร้อมทานจากข้าวไทย ที่เปลี่ยน เมนูอาหารในจานมาอยู่ในรูปแบบแท่ง ทําให้สามารถถือรับประทานได้สะดวก โดยที่ข้าวไม่แตกหรือร่วน ทําจากข้าวหลากหลายชนิด ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อให้ข้าวหอมมะลิและข้าวไรซ์เบอร์รี่คงรูปเป็นแท่งได้ พร้อมคงรสชาติความ อร่อย และมีไส้ผักหรือเนื้อสัตว์ตามเมนูอาหาร แต่ละชนิด ผลิตภัณฑ์นี้ตอบโจทย์วิถีชีวิตที่เร่ง รีบของคนรุ่นใหม่ สามารถอบร้อนด้วย เครื่องอบข้าวแท่งพิเศษในเวลาเพียง 3 นาที ก็สามารถรับประทานได้ทันที

รองชนะเลิศอันดับ 1

รางวัลสุดยอดนวัตกรรม ประจำปี 2567 ด้านเศรษฐกิจ

จากโครงการความร่วมมือขับเคลื่อนนวัตกรรมสำหรับประเทศ Thailand Synergy เพื่อ SMEs ไทย 7 Innovation Awards 2567

รองชนะเลิศอันดับ 1

นวัตกรรมข้าวไทยปี 2567 ประเภทกลุ่มอุตสาหกรรม

จากการประกวดนวัตกรรมข้าวไทย โดย มูลนิธิข้าวไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ร่วมกับ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

ข้าวแท่งเป็นตัวอย่าง ของการนำทรัพยากรในประเทศมาพัฒนาเป็นสินค้าเชิงพาณิชย์ที่สะท้อนอัตลักษณ์ไทย โดย ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์และภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับแนวคิด Soft Power ของประเทศไทย ผลิตภัณฑ์นี้เน้นใช้ข้าว ไทยเป็นวัตถุดิบหลัก และพัฒนาเป็นขนมข้าวแท่งที่มีรสชาติและไส้ที่สะท้อนถึงความหลากหลายของอาหารไทย เช่น ข้าว เหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวทุเรียน และต าไทย นอกจากช่วยส่งเสริมค่านิยมและเอกลักษณ์ไทยสู่เวทีโลกแล้ว ยังช่วยเพิ่ม มูลค่าให้กับข้าวไทยและสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนได้อย่างยั่งยืน