เป้าหมายและการจัดการความปลอดภัยและอาชีวอนามัย

เป้าหมายและการจัดการความปลอดภัยและอาชีวอนามัย

บริษัทฯ มีความแนวแน่ที่จะพัฒนาองค์กรให้มีความปลอดภัย โดยปราศจากอุบัติเหตุการบาดเจ็บจากการทำงาน และปลอดโรค โดยได้เน้นย้ำการปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกําหนด และมาตรฐานด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยที่ได้รับการยอมรับอย่างเข้มงวดและถือเป็นประเด็นสำคัญที่ได้กำหนดเป็นหลักปฏิบัติด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในจรรยาบรรณบริษัทฯ พร้อมทั้งนโยบายด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย จรรยาบรรณคู่ค้าและนโยบายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นความปลอดภัยและอาชีวอนามัย อีกทั้งจรรยาบรรณและนโยบายต่างๆ ได้ถูกสื่อสารไปยังผู้ปฏิบัตงานทุกระดับ ผู้รับเหมา และผู้รับเหมาช่วง เพื่อให้เกิดความตระหนักและใส่ใจกับความปลอดภัยในการทำงานทั่วทั้งองค์กร

แนวทางการบริหารจัดการความปลอดภัยและอาชีวอนามัยตามจรรยาบรรณบริษัทฯ

  • จัดทำข้อกําหนดด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ/เจ็บป่วยจากการทำงาน และสื่อสารให้ความรู้และเข้าใจการปฏิบัติงาน และยุติการปฏิบัติงานที่ไม่ปลอดภัย พร้อมทั้งฝึกซ้อมแผนรองรับเหตุฉุกเฉิน
  • จัดทำข้อกําหนดและมาตรการป้องกันปัญหายาเสพติดเน้นให้ผู้บังคับบัญชาเป็นแบบอย่างที่ดี และควบคุมดูแลการกระทำความผิดและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการในการแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติด
  • จัดทำแผนการจัดการภาวะวิกฤติเพื่อลดความเสียหายที่สอดคล้องกับการจัดการแผนรองรับเหตุฉุกเฉินของบริษัทในเครือกับแผนการจัดการภาวะวิกฤติของบริษัทฯ และสื่อสารเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • มีวิธีปฏิบัติ/อุปกรณ์เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อสร้างและรักษาสภาพแวดล้อมในการทำงานให้ปลอดภัย พร้อมทั้งตรวจสอบประวัติของผู้ปฏิบัติงานทุกคนและมีกระบวนการที่ชัดเจนในการรายงานกรณีเกิดความผิดปกติ

เป้าหมายด้านความปลอดภัย

0

โครงสร้างการบริหารทรัพยากรบุคคล

คณะกรรมการบริษัท

  • กำหนดวิสัยทัศน์และกลยุทธ์การดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย พร้อมทั้งติดตามการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามเป้าหมาย ผ่านคณะกรรมการชุดย่อยที่เกี่ยวข้องและฝ่ายบริหาร

คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง

  • พิจารณากลั่นกรองนโยบายและแนวทางการบริหารความเสี่ยงโดยรวมของบริษัทฯ ซึ่งครอบคลุมถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัย และอาชีวอนามัยเพื่อนำเสนอคณะกรรมการบริษัทฯ ให้ความเห็นชอบ
  • กำหนดยุทธศาสตร์และแนวทางการบริหาร พร้อมทั้งตรวจติดตามการบริหารความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ให้สอดคล้องกับนโยบายการบริหารความเสี่ยง
  • กำหนดเกณฑ์วัดความเสี่ยงและเพดานความเสี่ยงที่บริษัทฯ จะยอมรับได้ พร้อมกำหนดมาตรการที่ใช้ควบคุมเพื่อลดความเสี่ยง
  • ทบทวนความเพียงพอของนโยบายและระบบการบริหารจัดการ
  • รายงานผลการบริหาร การดําเนินงาน และสถานะความเสี่ยงของบริษัทฯ และการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ต่อคณะกรรมการบริษัทฯ ทราบอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงสิ่งที่ต้องดําเนินงานปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายและกลยุทธ์ที่กำหนด

คณะกรรมการธรรมาภิบาลและความยั่งยืน

  • พิจารณาให้ความเห็นชอบนโยบาย กลยุทธ์ เป้าหมาย แนวปฏิบัติและแผนงานด้านธรรมาภิบาล และความยั่งยืนของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินงานด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย (มิติสังคม: พนักงานและผู้ปฏิบัติงานของคู่ค้า) และเสนอให้คณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาและอนุมัติ
  • ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการ ผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงาน ในกิจกรรมด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย พร้อมกำกับดูแลให้มีการปฏิบัติที่สอดคล้องกับนโยบาย และ/หรือ ระเบียบที่เกี่ยวข้องของบริษัทฯ
  • ติดตามและรายงานผลการปฏิบัติต่อคณะกรรมการบริษัทฯ อย่างสม่ำเสมอ
  • ทบทวนและเสนอปรับปรุงนโยบายและแนวปฏิบัติด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของกลุ่มบริษัทฯ เป็นประจำตามความเหมาะสม เพื่อให้มีความสอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ รวมทั้งมาตรฐานของประเทศและมาตรฐานสากล

ฝ่ายบริหาร

  • พิจารณาและกำหนดแนวทางการดําเนินงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของบริษัทฯ
  • ติดตามผลการดําเนินงานและการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องของกิจการที่ลงทุนผ่านผู้แทนที่เป็นกรรมการ ผู้แทนที่เป็นผู้บริหาร และคณะทำงานต่างๆ
  • ทบทวนและปรับปรุงกฎระเบียบ นโยบาย และแนวปฏิบัติให้ทันสมัยและสอดคล้องกับหลักกฎหมายและมาตรฐานสากล
  • ติดตามและรายงานผลการปฏิบัติตามนโยบายด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยต่อคณะกรรมการชุดย่อยและคณะกรรมการบริษัทฯ

คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน

  • จัดทํา พัฒนาและปรับปรุงระบบการจัดการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยให้เป็นไปตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง
  • ประเมินความเสี่ยงและบริหารความเสี่ยง พร้อมทั้งติดตามผล
  • จัดให้มีแผนรองรับเหตุฉุกเฉินที่สอดรับกับความเสี่ยงและสถานการณ์ที่เป็นปัจจุบัน
  • ติดตามและรายงานผลการดําเนินงาน รวมทั้งเสนอแนวทางการปรับปรุงแก้ไขต่อฝ่ายบริหาร

ฝ่ายบริหารงานทั่วไป และส่วนบริการกลาง

  • กําหนดนโยบายและวางแผนงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานให้มีประสิทธิภาพ
  • บริหารจัดการงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน การรักษาความปลอดภัยให้เหมาะสม และถูกต้องตามกฎหมายและมาตรฐานสากล
  • จัดทำข้อกําหนดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ในงานความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน และการรักษาความปลอดภัย
  • จัดทำรายงานตามข้อกําหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง และครบถ้วน

สถิติสําคัญด้านความปลอดภัย ปี 2566

การดําเนินงานด้านความปลอดภัย

การประเมินความเสี่ยงในการทํางาน

การประเมินความเสี่ยงจากการทำงาน เป็นกระบวนการประเมินระดับความเสี่ยงเพื่อให้ทราบว่าความเสี่ยงอยู่ในระดับใดโดยจะมีการบ่งชี้อันตรายและประเมินความเสี่ยงของกิจกรรมหรือภาระงาน พื้นที่การทำงาน และสภาพแวดล้อมโดยรวมของสถานที่ทำงาน ด้วยการวิเคราะห์ถึงอันตรายที่แฝงอยู่ในแต่ละขั้นตอนการทำงานและวิธีการป้องกัน แก้ปัญหาอันตรายของงานนั้น(Job safety analysis) รวมทั้งประเมินระดับผลกระทบหรือความรุนแรงและระดับโอกาสเกิดอันตราย จากนั้นนําผลการประเมินระดับความรุนแรงและโอกาสมาประเมินระดับความเสี่ยงและกําหนดวิธีการควบคุมหรือจัดการความเสี่ยงที่สามารถลดโอกาสและผลกระทบจากการเกิดอันตรายจากระดับสูงให้อยู่ในระดับต่ำหรือยอมรับได้ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีความเสี่ยงจากการทำงานน้อยที่สุด ส่วนงานที่ความเสี่ยงสูงทุกงาน เช่น งานในที่สูง งานในที่อับอากาศงานที่ก่อให้เกิดความร้อนและประกายไฟ งานที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีต้องได้รับการประเมินระดับความเสี่ยง พร้อมทั้งกำหนดมาตรการควบคุมความเสี่ยงก่อนเริ่มปฏิบัติงาน และตรวจสอบการทำงานตลอดเวลา

หลักการควบคุมความเสี่ยง

การประเมินระดับความเสี่ยงของงาน ปี 2566

การทำงานที่มีระดับความเสี่ยงสูงและปานกลาง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะตรวจสอบพื้นที่การทำงานอย่างเข้มงวด โดยกำหนดความถี่ของการตรวจสอบตามระดับความเสี่ยงของงาน ดังนี้

การควบคุมความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน

สิ่งสำคัญที่จะใช้ในการควบคุมการดำเนินงานให้เกิดความปลอดภัยคือ การตรวจสอบให้มีการปฏิบัติตามมาตรการและวิธีการปฏิบัติงานนั้นๆ อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะงานที่มีความเสี่ยงสูง โดยมีการตรวจสอบความพร้อมของผู้ปฏิบัติงาน ความพร้อมใช้ของเครื่องมือ/เครื่องจักร/อุปกรณ์และสภาพแวดล้อมในการทำงานให้อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย ตลอดจนถึงการให้สิทธ์ในการสั่งหยุดการทำงานกรณีที่ผู้พบเห็นเหตุการณ์/สถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย โดยรายงานต่อผู้รับผิดชอบได้ทันที

กรณีที่เกิดอุบัติการณ์ระหว่างปฏิบัติงานผู้พบเห็นเหตุการณ์จะต้องแจ้งไปยังหัวหน้างาน/ผู้ควบคุมงาน เพื่อประเมินระดับความรุนแรงของอุบัติการณ์ และแก้ไขปรับปรุง หรือเพิ่มมาตรการความปลอดภัยที่สามารถควบคุมอันตรายนั้นไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพทันที สำหรับอุบัติการณ์ที่ไม่สามารถดำเนินการได้ทันทีจะต้องรายงานให้ผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปและผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบและหาแนวทางแก้ไข/ปรับปรุง หรือกำหนดมาตรการจัดการและควบคุมเพิ่มเติมการดำเนินการดังกล่าวข้างต้นนี้จะทำร่วมกับเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยและผู้ปฏิบัติงานซึ่งจะเป็นผู้บังคับใช้มาตรการที่ปรับปรุงแก้ไขหรือเพิ่มเติมกับผู้ปฏิบัติงานในการกลับเข้าปฏิบัติงานใหม่อีกครั้ง

ผลการดําเนินงาน ปี 2566

ในปี 2566 บริษัทฯ และกิจการในขอบเขตรายงานได้นำวิธีและมาตรการควบคุมความปลอดภัยกับผู้ปฏิบัติงานเครื่องจักร/อุปกรณ์การทำงาน และสภาพแวดล้อมในการทำงาน รวมทั้งมาตรการการสั่งหยุดงานมาปฏิบัติใช้ ซึ่งผลการดำเนินงานสรุปได้ ดังนี้

การจัดการเพื่อรองรับเหตุฉุกเฉิน

บริษัทฯ มีการจัดทำและทบทวนรายละเอียดของแผนรับรองเหตุฉุกเฉินในแต่ละสถานการณ์ที่สอดคล้องกับบริบทการดำเนินงาน และความเสี่ยงที่อาจเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นของแต่ละแห่งไว้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องตามระบบการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย หรือมาตรฐาน ISO 45001 ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ กำหนดให้มีการฝึกซ้อมแผนรองรับเหตุฉุกเฉินเป็นประจำ และเหมาะสมกับขั้นตอนหรือความซับซ้อนของการจัดการเหตุการณ์ตามที่กำหนดไว้ในแผนรองรับเหตุฉุกเฉิน เช่น แผนรองรับเหตุฉุกเฉินระดับ 1 หรือ
ระดับหน่วยงานต้นที่หน่วยงานสามารถระงับเหตุได้เอง จะฝึกซ้อมในทุกพื้นที่ปฏิบัติงานเป็นประจำ ส่วนแผนรองรับเหตุฉุกเฉินระดับ 3 ที่ต้องจัดการเหตุร่วมกับหน่วยงานภายนอกจะทำการฝึกซ้อมปีละ 1 ครั้ง เป็นต้น เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องมีความรู้ความเข้าใจ และสามารถจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างเหมาะสมและรวดเร็วที่สุด ซึ่งช่วยลดโอกาสที่จะก่อให้เกิดความรุนแรงลดโอกาสการบาดเจ็บ และลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นให้มากที่สุด

แผนรองรับเหตุฉุกเฉินของบริษัทฯ และโรงไฟฟ้า ตามข้อกําหนดกฎหมายและมาตรฐาน ISO 45001

การฝึกซ้อมแผนรองรับเหตุฉุกเฉิน ปี 2566

สถิติการเกิดเหตุฉุกเฉิน ปี 2566

ในปี 2566 กลุ่มบริษัทฯ และกิจการที่อยู่ในขอบเขตการรายงานจำนวน 13 แห่ง มี 5 แห่งที่เกิดเหตุฉุกเฉินซึ่งทุกแห่งสามารถควบคุมเหตุการณ์และตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินได้ตามขั้นตอนของแผนรองรับเหตุฉุกเฉินโดยไม่มีผลกระทบต่อผู้ปฏิบัติงานและทรัพย์สิน หลังเกิดเหตุโรงไฟฟ้าทุกแห่งได้ทำการสอบสวนหาสาเหตุ และทำการทบทวนการประเมนิความเสี่ยงของงานความเพียงพอและประสิทธิภาพในการใช้ปฏิบัติจริงของแผนรองรับเหตุฉุกเฉินอีกครั้ง รวมถึงการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ

จํานวนครั้งของการเกิดเหตุฉุกเฉินในปี 2566

ไฟไหม้
1 ครั้ง
สารเคมีรั่วไหล
3 ครั้ง
น้ำมันรั่วไหล
1 ครั้ง

การจัดการภาวะวิกฤติ

ในกรณีที่มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและยากต่อการควบคุมที่เกิดขึ้นจากภายในและภายนอกองค์กร เช่น ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรง เหตุเพลิงไหม้เหตุระเบิด การหกรั่วไหลของสารเคมี การโจมตีทางไซเบอร์ การก่อการร้าย เป็นต้น นอกจากการกำหนดมาตรการป้องกัน แผนรองรับเหตุการณ์และการฝึกซ้อมแผนครบถ้วนสม่ำเสมอแล้ว กลุ่มบริษัทฯ ยังได้มีการจัดทํา แผนจัดการภาวะวิกฤติ แผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ และแผนการสื่อสารในภาวะวิกฤติรองรับไว้ด้วย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้องค์กรสามารถบริหารจัดการเหตุไปพร้อมกับดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องไปได้และสามารถฟื้นคืนสถานการณ์ สู่ภาวะปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะเวลาอันสั้น ควบคุมผลกระทบต่อกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียให้น้อยที่สุด พร้อมทั้งสามารถสื่อสารต่อผู้มีส่วนได้เสียได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที ทั้งนี้ บริษัทฯ กำหนดให้มีการทบทวนความเหมาะสมของแผนและขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ ให้เหมาะสมกับปัจจัยความเสี่ยงในปัจจุบันอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสําคัญ รวมถึงสถานการณ์ความเสี่ยงเกิดใหม่อื่นๆ ด้วยนอกจากนี้ บริษัทฯ ยังกำหนดให้คณะทำงานบริหารความเสี่ยง โดยฝ่ายวางแผนและพัฒนาระบบงานทำหน้าที่ในการจัดให้มีการทดสอบ และปรับปรุงให้แผนการจัดการภาวะวิกฤติ (Crisis Management Plan: CMP) และแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจให้เหมาะสมกับบริบทปัจจุบัน และดูแลระบบการบริหารจัดการในภาพรวม พร้อมส่งเสริมการสร้างความรู้ความเข้าใจความตระหนัก และการมีส่วนร่วมในการฝึกซ้อมและการปฏิบัติตามแผนด้วย

การเสริมสร้างวัฒนธรรมด้านความปลอดภัย

การสร้างความตระหนักด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในการทำงานถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนตระหนักได้ถึงการทำงานให้ปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งสามารถเป็นผู้แนะนำหรือมีส่วนร่วมตรวจตราสภาพการณ์หรือความเสี่ยงที่อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ อุบัติการณ์ หรือความไม่ปลอดภัยในการทำงานได้ ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯ ได้ดำเนินการ
ผ่านกิจกรรมอบรมเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงานให้มีความปลอดภัย ส่งเสริมความตระหนักและจิตสำนึกถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก (Safety First) ในการทำงานตลอดจนพัฒนาความรู้ความสามารถด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยให้แก่บุคลากรอย่างมีส่วนร่วม ทั้งนี้หน่วยงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย พร้อมด้วยฝ่ายทรัพยากรบุคคลของทุกองค์กรจะเป็นผู้รับผิดชอบจัดทำแผนการฝึกอบรมที่จําเป็นและเกี่ยวข้องกับผู้ปฏิบัติงานนั้นๆ โดยมีวิทยากรทั้งจากภายในและภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นผู้ได้รับอนุญาตในการฝึกอบรมเรื่องนั้นๆ มาดำเนินการเป็นการเฉพาะเพื่อให้ได้รับความรู้ที่ถูกต้องอย่างครบถ้วน และสามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย

การอบรมเพื่อสร้างความรู้และความตระหนัก
ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ปี 2566